สินค้าที่มีความบอบบางมากอย่างผลไม้สด การจัดเก็บและการเคลื่อนย้ายขนส่งจะต้องใส่ใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจค้าขายผลไม้จะต้องให้ความสำคัญกับแพ็คเกจจิ้งหรือ กล่องผลไม้

กล่องผลไม้ที่มีคุณภาพควรเป็นอย่างไร ทำไมถึงต้องเจาะรู

คุณสมบัติของกล่องผลไม้

กล่องผลไม้

สินค้าที่มีความบอบบางมากอย่างผลไม้สด การจัดเก็บและการเคลื่อนย้ายขนส่งจะต้องใส่ใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจค้าขายผลไม้จะต้องให้ความสำคัญกับแพ็คเกจจิ้งหรือ กล่องผลไม้ เพราะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยปกป้องผลไม้ไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการกระทบกระแทกจากการขนส่ง และจัดเก็บเพื่อการรักษาผลไม้ให้ใหม่สดอยู่จนถึงมือของลูกค้า นั่นเอง

กล่องผลไม้ ที่มีคุณภาพควรเป็นอย่างไร?

เนื่องจากผลไม้หรือพืชผลทางการเกษตรต่างๆ มีอายุสั้น และเหี่ยวเฉาได้ง่าย ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาในการขนส่ง และยังต้องระมัดระวังไม่ให้มีการกระทบกระแทกทำให้ผลไม้นั้นช้ำหรือมีตำหนิ ฉะนั้นกล่องที่บรรจุผลไม้ได้อย่างเหมาะสม ต้องมีความแข็งแรงที่เพียงพอเพื่อให้ทนต่อแรงกระแทกหรือกดทับระหว่างการขนส่ง และต้องออกแบบกล่องให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย รวมถึงคุณภาพของกระดาษที่สามารถควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับผลไม้ชนิดนั้นๆ ได้ ซึ่งการเลือกกล่องผลไม้ที่ดีต้องมีลักษณพดังต่อไปนี้

    1. เลือก “กล่องผลไม้” ที่ทำจากกระดาษที่แข็งแรงและเหมาะสมสำหรับใส่ผลไม้ : กล่องกระดาษที่สามารถนำมาเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อใส่ผลไม้ได้มี 2 ชนิด ก็คือ กล่องกระดาษลูกฟูก KA และ KS ซึ่งคุณสมบัติที่เหมาะสมดังนี้
      • กล่องกระดาษลูกฟูก KA : เป็นกระดาษลูกฟูกที่ผิวด้านนอกเป็นสีน้ำตาล-ทอง หรือสีน้ำตาล-ส้ม เป็นกระดาษที่มีความแข็งแรงทนทาน จึงเหมาะสำหรับใส่สินค้าที่มีน้ำหนักมาก หรือวางซ้อนกันหลายๆชั้น สามารถนำไปใช้กับสินค้าได้ทุกประเภททั้งสินค้าที่ขนส่งภายในประเทศและกล่องสินค้าที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ กระดาษลูกฟูก KA มีคุณสมบัติทนความชื้นได้ จึงนิยมใช้บรรจุสินค้าแช่แข็งและสินค้าที่ต้องขนส่งทางทะเล เช่น อาหาร และผักผลไม้

      • กล่องกระดาษลูกฟูก KS : เป็นกระดาษลูกฟูกที่ผิวด้านนอกเป็นสีขาว มีความแข็งแรงและมีสีขาวสะอาดตา จึงมักมีการพิมพ์ลายสวยงามช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับ KA คือมีความเหนียว แข็งแรงทนทาน ป้องกันกันแรงกระแทกและทนต่อความชื้นได้ดี นิยมนำมาทำกล่องบรรจุสินค้าเพื่อการส่งออกเช่นกัน

    2. เลือก “กล่องผลไม้” ที่เจาะรู : หลายคนมีความสงสัยว่าทำไมกล่องที่บรรจุผลไม้ส่วนใหญ่ต้องเจาะรู?… สำหรับใครที่เคยซื้อผลไม้แบบยกลังน่าจะเคยคุ้นตากับกล่องลังผลไม้ที่มีการเจาะรูกล่องด้านละ 2 รูบ้าง 4 รูบ้าง ทำได้ทั้งรูแบบสี่เหลี่ยม, สามเหลี่ยมและวงกลม หรือบางแบรนด์เลือกฉลุให้กล่องมีรูที่เป็นลวดลายพิเศษเพื่อทำให้เป็นแพ็คเกจจิ้งที่สวยงามมากขึ้น เช่น ฉลุเป็นรูที่เป็นลวดลายแคนตาลูป หรือเมลอน เป็นต้น และสาเหตุของกล่องผลไม้ที่ต้องมีรู ก็เพื่อให้มีรูระบายอากาศให้มีการถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันความร้อนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผลไม้ภายในเกิดการสุกงอมมากเกินไปก่อนส่งถึงมือผู้บริโภคหรือผู้รับสินค้า

    3. เลือก “กล่องผลไม้” ที่มีหูหิ้วหรือมีช่องจับสำหรับยกกล่องได้ : อย่างที่เราได้กล่าวไปว่า ปัจจัยที่เจ้าของกิจการค้าขายผลไม้จะต้องใส่ใจเรื่องกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ผลไม้อีกข้อหนึ่งก็คือ ความสะดวกในการยกหรือขนย้ายระหว่างการขนส่งสินค้า ฉะนั้นการเลือกกล่องที่มีหูหิ้วหรือไดคัตกล่องให้มีช่องสำหรับจับ จึงเป็นกล่องที่เหมาะสมกับการใช้บรรจุผลไม้เพื่อง่ายต่อการขนส่ง ซึ่งโดยทั่วไปนั้น กล่องผลไม้ สดนั้น จะมีรูปแบบที่ใช้วิธีการไดคัตกล่องเพื่อให้สามารถยกหรือจับกล่องได้ มีดังนี้

    4. กล่องฝาชน ไดคัตเจาะรูมือจับ : เป็นกล่องลังผลไม้ที่คุ้นตาคือ เป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่มีฝากล่องปิดชนกันอย่างละสองด้าน ที่สามารถให้เทปกาวปิดผนึกที่ฝากล่องได้ แต่มีการไดคัทเจาะรูในขนาดที่นิ้วมือสามารถสอดเข้าไปได้ เพื่อใช้ถือหรือยกกล่องได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นช่องระบายอากาศได้อีกด้วย จึงนิยมใช้เป็น กล่องผลไม้ ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 2-10 กิโลกรัม เหมาะสำหรับใส่ผลไม้ได้ทุกชนิด

      • กล่องไดคัตแบบมีหูหิ้ว เหมาะสำหรับใส่ผลไม้จำนวนไม่เยอะมาก ที่สามารถถือหิ้วได้สะดวก มีการเจารูเพื่อระบายอากาศ ส่วนใหญ่นิยมใช้สำหรับผลไม้ที่ซื้อเป็นของฝาก ซึ่งกล่องลักษณะนี้นิยมสกรีนลายแบรนด์ของร้านหรือลวดลายต่างๆ เพื่อเพิ่มการจดจำแบรนด์และความสวยงามของ กล่องผลไม้ ได้เป็นอย่างดี

      • กล่องไดคัตทรงต่างๆ พร้อม ไส้กล่อง กล่องลักษณะจะมีไส้กั้นต่างๆที่ถูกออกแบบมาให้ช่วยล็อคและป้องกันสินค้าโดยฌฉพาะ นิยมใช้กับผลไม้เกรดพรีเมี่ยม ที่ต้องคงสภาพของผลไม้ภายในไม่ให้กลิ้งไปมาจนเกิดการช้ำ

    5. เลือก “กล่องผลไม้” ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในได้ : ผลไม้บางชนิดจะต้องอยู่ในอุณหภูมิที่เย็น แค่การเจารูระบายความร้อนได้อาจไม่เพียงพอ ยิ่งบ้านเราเป็นเมืองร้อนด้วยแล้ว การจัดเก็บและการขนส่งผลไม้ที่ต้องควบคุมความเย็นจึงต้องเลือกกล่องที่สามารถควบคุมอุณหภูมิความเย็นได้หรือทนต่อความชื้นได้ เช่น กล่องกระดาษลูกฟูก KA ที่มีคุณสมบัติทนต่อความชื้นและอุณหภูมิที่ต่ำได้ได้ดี และจะต้องมีความหนาอยู่ที่ 185-230 แกรม และจะต้องประกอบกล่องด้วยกาวที่มีคุณภาพแทนการเย็บด้วยลวดเพื่อป้องกันการเกิดสนิม เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติของ “กล่องผลไม้” ที่มีคุณภาพสำหรับธุรกิจการค้าขายผลไม้สด ที่คุณสามารถนำหลักการนี้ไปสั่งผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ผลไม้ของคุณได้อย่างไม่มีปัญหาตามมาในภายหลังแน่นอน หากคุณสนใจอยากสั่งผลิตกล่องสำหรับใส่ผลไม้ไม่ว่าจะเป็นกล่องแบบใดที่เราได้กล่าวไปแล้ว บริษัท บาแล็นซ์ แพ็คกิ้ง จำกัด เราเป็นโรงงานรับผลิตกล่องทุกรูปแบบ ทั้งกล่องสำเร็จรูปหรือรูปแบบที่ลูกค้ากำหนดเองได้ทั้ง รูปทรง ขนาด แบบพิมพ์ และเสปกกระดาษได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถให้คำแนะนำในการเลือกกล่องผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี

สนใจกล่องกระดาษลูกฟูก ติดต่อ บาแล็นซ์ แพ็คกิ้ง
โทร : 02-813-0980
Line : @blbox
E-mail : contact@balancepacking.co.th